อัครราศรม รีสอร์ทสวย สกลนคร
ตั้งอยู่ในซอยเยื้องสถาบันราชภัฏ สกลนคร ขับรถไปประมาณ 1 นาที
ไปตามถนนนิตโย ที่ออกจากเมืองสกลนครมุ่งหน้าอุดรธานี ไปประมาณ กม.6
จะพบสี่แยกไฟแดง สถาบันราชภัฎอยู่ซ้ายมือ ผ่านราชภัฎไปแล้วให้เตรียมกลับรถ
บริเวณหน้าโรงเรียนมัธยมธาตุนาเวง ที่อยู่ถัดไปไม่ไกล กลับรถเข้าช่องคู่ขนานซ้ายสุด
ชลอรถ แล้วเตรียมเลี้ยวเข้าซอยแรกที่อยู่ประมาณ 200 เมตรจากจุดกลับรถ
เข้าซอยแล้ววิ่งไปอีกไปประมาณ 50 เมตร เจอสะพานเล็กๆข้ามคลองชลประทาน
ลงสะพานเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเลียบไปตามถนนเลียบคลองชลประทานไม่เกิน 1 กิโลเมตร
ดูจากแผนที่แล้วไปเองได้ง่ายมากเลย ถึงจะเดินไปก็ยังไม่ทันได้เหนื่อยเลย
หากเข้ามากลางคืน จะพบชาวนาหลายคนจับกบอยู่ตามริมคันนา
ห้องพักมีทั้งหมด 3-4 แบบให้เลือกตามความชอบ
ห้องมาตรฐาน ปกติเจ็ดร้อยบาทต่อคืน ช่วงโปรโมชั่นจะลดเหลือแค่สี่ร้อยหรือห้าร้อยบาท
ห้องพิเศษ ตกแต่งสวยขึ้น หลายคนน่าจะชอบเพราะราคาเพิ่มขึ้นอีกร้อยเดียวจากห้องมาตรฐาน
แต่ถ้ามาช่วงโลว์ซีซั่น ลดเหลือแปดร้อยเอง
อ้อ มีกระท่อมปลายนาด้วยนะ สามร้อยกว่าบาท ไม่มีแอร์ ห้องน้ำในตัว
กางมุ้งนอนริมชายทุ่งสัมผัสบรรยากาศแท้ๆ ฟังเสียงกบ เขียด ร่ำร้องระงมทุ่ง
ไปสกลนคร มองหารีสอร์ท สวยๆ สงบๆ เป็นส่วนตัว อย่าลืมแวะไปดูห้องก่อนตัดสินใจ
อยู่ไม่ไกล เยื้องสถาบันราชภัฎสกลนคร เข้าซอยไปอีกเพียง 1 นาทีก็ถึงแล้ว
โทรถามราคาก่อนได้ที่ผู้จัดการใจดี ครูต้อย 081-2610393
คุณทอดด์ ทองดี....ตื่นแต่เช้าตรู่ หกโมงเช้าได้...
บังเอิญผมเดินสูดอากาศกับลูกชายวัยหัดเดิน
จึงไปเจอทอดอารมณ์ยามเช้าที่ศาลาริมสระน้ำ
ท่ามกลางบรรยากาศเย็นๆ ในธรรมชาติอันร่มรื่น
เราจึง ได้แต่ยิ้มทักทายกัน ...ไม่นานก็ได้สนทนากันที่“ มุมกาแฟ “ของเรา
"ผมมางานแสดงดนตรีงานปีใหม่ของจังหวัดสกลนคร... และจะเลยไปแสดงต่อที่มุกดาหาร..."
คุณทอดด์ อธิบายคร่าวๆถึงที่มาที่ไป...
ผมรู้สึกถึงความเป็นกันเองไม่ถือตัว เพราะหลังจากแนะนำตัวกัน
คุณทอดด์ก็เรียกชื่อเล่นผมอย่างเป็นกันเอง
“ อืม...ผมชอบบรรยากาศธรรมชาติแบบนี้ นะ ...
ผมอธิบายแนวความคิดรีสอร์ทแบบพอเพียงอย่างคร่าวๆ
ทั้งผัก ผลไม้ ปลา เราปลูกเราเลี้ยงเอง เพื่อแขกจะได้มั่นใจว่า
ได้รับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายที่จัดให้โดยครัวอัครราศรม...ที่เพิ่งเปิดบริการ...
คุณทอดด์ชื่นชอบกาแฟสดเป็นชีวิตจิตใจ
เช่นเดียวกับผมที่ชอบคาร์ปูชีโน่ ...
คอกาแฟสองแนวเมื่อได้กาแฟถ้วยโปรด
การสนทนาก็เริ่มออกรสออกชาติมากยิ่งขึ้น
เราพูดคุยกันหลากหลายเรื่องราว...
ตั้งแต่ประสบการณ์สนุกๆในการไปแสดงดนตรี
ในต่างประเทศที่เพิ่งบินกลับหมาดๆ
และมีอาการเจ็บคอแถมมาด้วย
รวมถึงเรื่องธุรกิจของวงการบันเทิง
ที่คุณทอดด์ชิงหมอลักษณ์...ฟันธงว่า
จะเกิดปรากฎการณ์สำคัญกับค่ายเพลงใหญ่ๆ...ในไม่ช้า ...
" คุณทอดด์เป็นศิลปินอิสระเหรอครับ..."
" ใช่ ..." คุณทอดด์ตอบสั้นๆ
ก่อนอธิบายเสียยาวว่าอิสระดีกว่าอย่างไร ...
เราสนทนาถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่กำลังฮอตฮิต
กันทุกวงกาแฟ แนวโน้มของสังคมที่เปลี่ยนไป
...ผู้คนที่แก่งแย่งทำมาหากิน...
ธุรกิจก็ยากที่จะไว้ใจใครได้ ....
ถึงตรงนี้เราคุยกันอย่างออกรส
เพราะเหมือนว่าเราต่างผ่านประสบการณ์คล้ายๆกัน
กับสังคมคนเมือง คุณทอดด์ยังยกตัวอย่าง
บางตัวละครในบางตอนของเรื่องสามก๊ก
...ผมทึ่งกับความรอบรู้...
คุณทอดด์ สมกับเป็นศิลปิน โดยเฉพาะคำว่าเพื่อชีวิต
แม้เพลงของคุณทอดด์จะไม่ส่อไปในทางการเมืองเต็มตัว
แต่ความคิดข้างในลึกๆตรงนี้ต่างหากที่เข้มข้น
และเป็นมุมมองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
" ทำไมคุณทอดไม่สวมรองเท้า? "
ผมถามคำถามที่คาใจทุกครั้งที่เหลือบเห็น
คุณทอดด์หัวเราะแล้วบอกว่า ไม่ใส่มานานแล้วตั้งแต่อยู่อเมริกา
เพราะอยู่ในทะเลทราย (ผมก็ไม่ได้ถามต่อ เข้าใจว่าคงจะยิ่งร้อนเท้า)
ผมยกตัวอย่างพระในวัดที่เคร่งในกิจวัตรและพระธรรมวินัยแห่งหนึ่ง
เช่นที่วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร อันมีพิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น
ตั้งอยู่ภายในวัด ที่ เป็นพระในลัทธิหินยาน ไม่สวมรองเท้า
ฉันท์อาหารในบาตรทั้งคาวหวานและข้าวคละกัน
คุณทอดด์ พยักหน้าหงึกๆ หัวเราะร่วน
สักพักเพื่อนๆของคุณทอดด์ตื่นนอนแล้ว
ก็ทะยอยเดินมาสมทบที่ร้านอาหารของรีสอร์ทจนเต็มไปหมด
การสนทนาก็เลยจบลงเนื่องจากมีการ
ตะโกนแซวกันไปมาอย่างอารมณ์ดี
กับเพื่อนนักดนตรีทั้งชาวไทยและ
ชาวต่างชาติของคุณทอดด์ที่ถือกีต้าร์มาด้วย
และนั่งได้ที่เหมาะก็บรรเลงเพลงเบาๆน่าฟังยิ่งนัก
ไม่นาน..คุณทอดด์รู้สึกคันไม้คันมือจึงกระโดดไปแย่งมาเล่นบ้าง
แขกบริษัทมือถือที่มาพักอีกกลุ่มที่นั่งจิบกาแฟอยู่
ได้ฟังเพลงสดๆก็พลอยสนุกสนานไปด้วย
คืนนั้น เป็นคืนประทับใจเราทุกคนอย่างยิ่ง
ทีมงานทุกคนของคุณทอดด์ล้วนมีอารมณ์เป็นศิลปินกันทุกๆคน ...
มีเสียงแคนดังแว่วมาค่อนคืน ห้องพักทีมงานที่พักอยู่ด้านหลัง
ติดชายทุ่ง ก็เชื่อว่าอารมณ์ศิลปินคงบรรเจิดขึ้น
เมื่อมาเจอบรรยากาศชายทุ่งริมเตียงนอนแบบนี้
ทำให้คนที่มาพักได้อรรถรสกับการดื่มด่ำภาพ
ยามค่ำคืนของแสงจันทร์เพ็ญที่ทอดไปยังผืนท้องนา
อันกว้างใหญ่ ได้สีสันครบถ้วนยิ่งขึ้น
ขอบคุณคุณทอดด์และทีมงานที่น่ารักทุกคน
เราในฐานะเจ้าบ้านรู้สึกเป็นเกียรติและเป็นสุข
ที่ได้ต้อนรับแขกที่น่ารักเช่นนี้
จึงขออนุญาติถ่ายทอดความประทับใจนี้มายังผู้อ่านทุกท่าน
ก่อนจากกัน...คุณทอดด์บอกว่าจะมาอีกเมื่อทัวร์จบ
และอยากจะมาหาบรรยากาศแต่งเพลง
"จะอยู่สักหลายวัน แต่เสียงดังหน่อยนะ"
ผมตอบรับอย่างไม่ลังเล ...
ด้วยมั่นใจว่าคงไม่มีแขกคนใหนปฏิเสธเสียงเพลงอันน่าฟัง
โดยเฉพาะจากกลุ่มศิลปินอารมณ์ดีอย่างคุณทอดด์
"...ยินดีต้อนรับเสมอ..ครับ"