จะขออนุญาติให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจจะเปิดธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ทตามคนอื่น เพราะได้ยินได้ฟังมาว่ารายได้ดี รวยเร็ว แถมไม่ต้องเหนื่อยมาก ทำเสร็จก็จบ นั่งรอนับเงินอย่างเดียว "ท่านกำลังได้ยินได้ฟังมาผิดๆ หรือเปล่า?"

ประเด็นแรก
อย่ากู้เงินมาทำ ธุรกิจนี้คืนเงินค่อนข้างช้า กว่าจะสร้างเสร็จก็อาจจะใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้น กว่าจะตกแต่ง และกว่าจะโปรโมทจนคนรู้จัก ท่านอาจจะบอกว่า เตรียมเงินผ่อนไว้แล้ว ถ้ามีขนาดนั้น ค่อยๆสร้างดีกว่า พยายามใช้เงินที่มีนั่นแหละค่อยๆ เติมจนเต็ม การได้เงินสนับสนุนจากธนาคารแม้จะดูดีและทำอะไรได้มากขึ้น แต่หากธุรกิจไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ภาระที่เกิดขึ้น จะเกินกำลัง

ประเด็นที่สอง
เรื่องประเภทของโรงแรม ถ้าคุณเปิดโรงแรมหรือรีสอร์ทที่เป็นแบบลี้สอด(ภาษาชาวบ้านแถบนี้) เพราะเน้นชั่วคราว มาตรฐานของหลายอย่างต่างกัน เช่น ต้องมีวิดีโอที่หาดูได้ยาก(ซึ่งตามมาด้วยการหลบหลีกกฎหมาย) อยู่ในทำเลที่เหมาะสม ถ้าท่านทำโรงแรมชั่วคราว ก็อย่าทำในที่ชุมชนหรือใกล้บ้านผู้คน หรือบนที่ดินที่เราอาศัยอยู่ทุกวัน เพราะชีวิตประจำวันของคุณ จะเจอกับถุงยางอนามัยเปียกๆ หรือผ้าปูที่นอนที่เปื้อนเลือด(เลือดสาวบริสุทธิ์มั้ง สงสัยจริงว่าทำไมบริสุทธิ์เยอะจัง) ซึ่งคุณอาจจะไม่ได้เก็บเอง ทำเอง แต่ยังไงคุณก็ต้องเจอกับหลากหลายคู่ที่หมุนเวียนกับเข้ามาทำภารกิจทุกๆวัน เป็นที่รู้จักของผู้คนว่าเราทำธุรกิจอะไร และไม่ใช่เป็นเรื่องน่าชื่นชมของวงศ์ตระกูล แถมตกทอดไปยังลูกหลานเลย เราอยู่แอ่งธรรมมะ แต่เราเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ปฏิบัติตรงกันข้าม ก็อย่าหาข้ออ้างให้กับใครเลย เชื่อว่าคิดกันได้เองได้ครับ
อัครราศรมรีสอร์ท ออกแบบมาเพื่อเป็นรีสอร์ทแบบค้างคืนสำหรับคนผ่านทางมาจากถิ่นอื่นเท่านั้น ด้วยคิดเห็นว่า เราอยากมีรายได้จากบ้านสวนที่เงียบเหงา ให้กับสองตายายวัยเกษียรราชการ และจะได้มีผู้คนไปมาหาสู่บ้าง จะทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่อจนเกินไป



ประเด็นที่สาม
เรื่องการบริหารจัดการ ซึ่งได้ยินได้ฟังมาว่ามือใหม่ทั้งนั้น ก็น่าเป็นห่วง เพราะการทำโรงแรมจริงๆ เขาต้องเรียนกันอย่างจริงจัง การปูที่นอน การทำความสะอาด การจัดเก็บข้าวของ การจองห้องพัก ฯลฯ ทุกอย่างคืองานบริการ หากบกพร่องแม้แต่เพียงนิดเดียว ก็จะถูกกล่าวหาว่าโรงแรมเราไม่ดีได้ทันที
อัครราศรมรีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ไม่ได้ยึดมาตรฐานโรงแรมชั้นหนึ่ง แต่ก็ทำเต็มที่ตามความสามารถและเชื่อว่าคุณภาพบริการ หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันในระดับราคาเดียวกัน(4-5 ร้อยบาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาค้างคืนของโรงแรมชั่วคราวทั้งหลาย) และน่าจะดีกว่าในหลายๆด้าน เช่นในด้านการออกแบบห้องพัก เพราะบางแห่งห้องสุขายังใช้ส้วมแบบนั่งยองๆ หรือแบบนั่งได้แต่เป็นประเภทต้องราดน้ำเอา ทุกห้องของเรายังมีระเบียงที่มีขนาดความกว้างเท่ากับห้องนอน จึงดูไม่ปิดทึบเหมือนรีสอร์ทแบบชั่วคราวที่ออกแบบมาแบบมิดชิดและส่วนใหญ่จะมีเฉพาะหน้าต่าง ไม่มีระเบียง

ประเด็นที่สี่
เรื่องลูกค้ากับความเข้าใจที่ผิดๆ สกลนครเป็นเมืองที่ยังต้องการเวลาในการขยับขยายเรื่องโรงแรมชั้นหนึ่ง ดังนั้นมาตรฐานของโรงแรมส่วนใหญ่ยังดูว่าจะด้อยกว่าที่อื่นๆ เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นของคนในท้องถิ่นตามระบบของการตลาดปกติ ราคาขายที่แข่งขันกันค่อนข้างต่ำ(ส่วนใหญ่หลักร้อย)  แถมยังแข่งขันสูงมากขึ้นเรื่อยๆ การทำตลาดล่างหรือกลางๆลงมาของที่นี่ เลยต้องสู้ราคากับคนท้องถิ่น ซึ่งแม้จะแพงกว่าสักเล็กน้อยก็น่าจะทำได้ หากสามารถทำคุณภาพให้ดีกว่าได้ โรงแรมดังๆ หลายแห่งได้เข้ามาทำการ research และพบว่ายังมีความเสี่ยงสูงกับการลงทุน เช่น กรณีศึกษาของโรงแรมชั้นหนึ่งแห่งหนึ่งที่ขอนแก่นต้องขายกิจการไป ด้วยมาตรฐานราคาระดับสองพันขึ้นไป แม้จะลดเหลือพันกว่าบาทก็ไปไม่รอด อิสานเงินไม่หนาแต่เป็นตลาดใหญ่และกินได้เรื่อยๆ คล้ายๆตลาดหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเรื่องที่น่าท้าทายอยู่จนทุกวันนี้ หากจะจับตลาดบนเช่น หน่วยงานราชการ(ที่เบิกได้อยู่แล้ว) กับเอกชนเงินหนาๆ อาจต้องหาเชือกเส้นใหญ่ๆหน่อย มัดให้แน่นๆ และหยอดน้ำมันบ่อยๆ
การที่สกลนครเป็นอย่างนี้ก็เป็นข้อดีหลายประการ เพราะเป็นเมืองพระ คนมาไหว้พระเกจิอาจารย์ต่างๆมากมาย จึงมาทำบุญกันเยอะ คนกลุ่มนี้มาแบบทัวร์รถตู้ หรือมากันเองกันเยอะมาก ไม่ต้องการหรูหรา เพราะต้องการแบบสมถะ เข้ามาด้วยสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงเทียบกับจังหวัดอื่นๆ แถบนี้จนกลายเป็นจุดขายของจังหวัดไปแล้ว

บทสรุป
ธุรกิจ...เกิด จากความต้องการของตลาด(Demand) เท่านั้น 
อย่าทำเพราะชอบหรือแค่อยากทำ เช็คก่อนว่าลูกค้าคุณเป็นใคร? (Target Market) อยากจ่ายแค่ใหน? (Pricing) และคาดหวังแค่ใหน?(Services) เรียงโจทย์ที่ต้องทำเป็นข้อๆ ให้ครบทุกข้อ แล้วไล่หาทางออกสวยๆ ให้ดีที่สุดสำหรับทุกข้อ อย่าว่างเว้นไว้ เพราะไม่งั้นคุณต้องเจอเขาในช่วงวิกฤติอีกแน่ๆ

อัครราศรม รีสอร์ท แม้จะวางแผนการตลาดไว้แล้ว ก็ต้องยอมรับสภาพกับรายได้ที่ลดลงหลังช่วงวิกฤติเศรษกิจ(เหลือง-แดง)จนถึงวันนี้ที่ผู้คนรัดเข็มขัดกันมากขึ้น จากกำไรสุทธิเดือนละเกือบแสน เหลือเฉลี่ยไม่ถึงครึ่งของที่เคยทำได้ และเรากำลังจะเข้าสู่ช่วงซ่อมแซมบำรุงที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ การประกาศขายกิจการเป็นเจตนาเพื่อให้คนอื่นที่มีกำลังดีกว่าและน่าจะทำต่อได้เลย เพราะการออกแบบนั้นได้เปรียบคู่แข่งขันอย่างมากมาย และลูกค้าอยู่ในตลาดใหญ่ แถมไม่จำเป็นต้องขายแพงด้วย รีสอร์ทที่ต้นทุนระดับนี้ ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับการสร้างใหม่ใน Scale ที่ใกล้เคียงกัน